วันศุกร์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2551

ยกทัพกลับบ้าน...ภาระกิจเสร็จสิ้น



เมื่อเราสนุกสนาน กับการถ่ยรูปยามเช้ากับบรรยกาศดีๆ จนเหนื่อยแล้วก็เก็บข้าวเก็บของ มานั่งล้อมวงกับ พร้อมกับใบหน้าที่มีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้ากันทุกคนเชียว

ถึงแม้เมื่อคืนจะมีบ้างเต้นท์ ต้องอบพยบกลางดึก หนีปลวกจะแทะเต้นท์ บ้างก็....ชิลล์ๆ จิงมั้ยพี่โจ๊ก พี่เอก พีเปีย พี่รัตน์ พี่อ้ายขำๆๆ

แล้วเมื่อเข้าสู่กิจกรรม AAR ONE WORD สั้นแต่ก็โอดีนะ ดูเอาเองแล้วกันว่าเราได้อะไรมาบ้าง
ทำให้ได้ฟังความคิดต่างๆจากคนอื่นๆว่าในเหตุการณ์เดียวกันเรามีมุมมองที่ต่างกัน และเราได้อะไรที่ต่างกัน แต่พอเราได้มานั่งล้อมวงคุยกันแบบนี้ทำให้เราได้ความคิดที่เพิ่มขึ้นในหลายๆด้าน มันคุ้มนะ.....รู้สึกดีแค่ไหนนะหรอบอกไม่ถูกแต่ที่แน่ๆมีความสุขมากกับกิจกรรมที่อาจารย์จัดให้คร้งนี้ แต่ที่แน่ๆถ้าไม่มาเรียนคงไม่มีโอกาสได้ทำอะไรแบบนี้ คงยังจะต้องนั่งทำงานอยู่จนไม่รู้ว่าวันหยุดเป็นไง เพราะว่าการเรียนในคร้งนี้ไม่ได้ให้แค่ความรู้แต่ยังมีองค์ประกอบอีกมากมายที่อาจารย์ถ่ายทอดมาสู่เราจากกิจกรรมต่างๆโดยไม่รู้ตัว.......ดีใจจัง.

วันอาทิตย์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2551

ยุทธการบุกยึด "เขื่อนแควน้อย" พิษณุโลก















การเดินทางเริ่มต้นแล้ว...........ตื่นเต้นๆ อยากรู้ว่าเราจะไปทำอะไรกัน กินยังไง นอนยังไง จะหนาวมั้ย ลำบากรึป่าว




แต่ที่แน่ๆ ตั้งตารอวันนี้มาตั้งแต่ อาจารย์รุจโรจน์ วางแผนในชั่วโมงแรกที่ได้เรียนกับอาจารย์แล้ว อะไรที่ได้ออกไปนอกห้องเนี้ยะขอให้บอกเถอะ




มันเริ่ดมากๆ วันนี้รู้สึกว่าใจจะวิ่งนำหน้ามาก่อนตั้งแต่เช้าแล้วมั้ง..^_^ ตั้งตารอดูนาฬิกาว่าเมื่อไรจะได้มาซะที แต่ว่าพอเอาเข้าจริง สงสัยงานนี้จะ




ไม่ใช่เราที่ตื่นเต้นคนเดียว แต่มีคนยิ่งกว่าล่วงหน้าไปรอยังแต่บ่ายโน้น....




แต่แล้วลั้นลาๆ..อยู่ได้ไม่เท่าไร งานเข้าซะแล้ว ก็ถนนสุดแสนจะดีหลอกเรามาตลอดทางพอเข้าเขื่อนเท่านั้นแหละ นึกว่าตัวเองกำลังแข่ง






แลนลี่ ปารีสตักก้า เหมือนในทีวีเลย มองอะไรไม่เห็นสักอย่าง งานนี้แค้นแม่ๆ สุดๆขับนำเราไม่พอ เหยียบกันระเบิดคงขับหนี เต่ากันละซิท่า แซวแค่นี้ทำเคือง




กลัวมันจะกัดยางทันเลยซิ่งหนีกันใหญ่ ฝุ่นตลบเชียว แต่โชคดีที่มี พี่เอก กับพี่รัตน์อยู่ข้างหน้า รับไปก่อนกินฝุ่นกันจนอิ่ม มองทางแทบไม่เห็น เท่านี้ชีวิตยังแย่ไม่พอ




ยังจะมีคนโทรมาเยาะเย้ยอีก เชอะ แต่กรรมมันติดจรวดนะจ๊ะ แม่ลี พี่อ้าย เจ้าออย อิๆๆ พอมาถึงก็ได้ยิน พี่ๆถามด้วยความเป็นห่วง แต่ตอนอยู่บนถนนไม่ห่วงเลยนะ ขอบคุณมากนะค่ะ ซึ้งใจสุดๆๆ(กัดฟันพูดเด้อ)




.....ก็อยากมาเองนี้น่าถือว่าโชคดี เพราะถ้าขับอยู่ปกติก็คงไม่ได้ใช้เกียร์อื่น นอกจาก D แต่วันนี้ได้ใช้ D3 ^_^ งานนี้ถอยไม่ได้เดินหน้าอย่างเดียวแล้ว ก็เริ่มสร้างบ้านกันใหญ่เชียว (กางเต้น) อิๆเราก็เอามานะแต่แอบเอาเปรียบชาวบ้านเค้า เอาที่มันเป็นรุ่น POP UP ไปลุ้นตอนเก็บเอาแล้วกัน กางเสร็จก็เครียดอยู่ จะเก็บมันได้มั้ย แต่ก็เอาเถอะ มันต้องได้ดิ ไม่ได้ก็ม้วนๆยัดๆใส่รถแม่ลีไปแล้วกัน โน๊ะแม่โน๊ะ



พอได้เวลาทำกิจกรรมก็เอ้ อาจารย์จะสอนยังงั้ย มีแต่ เฟรมกับ สี เอาๆก็เอา เดี่ยวก็รู้ จักกันเอง แหละ กับ ศิลปะบำบัดอาจารย์น่ารักมากๆ ถ้าอาจารย์สอนวิชาวิจัย สนุกแบบนี้เรียนกันตายเลย พอได้เวลาก็จิ้มๆๆๆๆๆๆๆ กันจนเลอะเทอะพอใจออกมาเป็นรูปอย่างที่เห็น สวยแบบ ของใครของมัน แต่สิ่งหนึ่งที่แปลกใท่สุดกับตัวเองคือ ทำไมเรานิ่งอยู่กับเฟรมได้นานขนาดนี้ ใครทำอะไรไม่สนใจ ก้มหน้าทำของตัวเองมารู้ตัวอีกที ก็ เวลาผ่านไปเป็นชั่วโมงแล้ว โอ้พระเจ้า ทำได้งั้ยอ่ะ แต่ก็ ภูมิใจ นะที่เห็นงานตัวเอง


แล้วหลังจากนั้นก็เริ่มกิจกรรม ที่แสนจะยุติธรรม เพราะเกมส์แต่ละเกมส์ที่หามาเล่นกันนั้น ผู้เข้าแข่งขันทุกคนต่างหากลโกงสารพัดเพื่อมาทำให้กลุ่มของตัวเองชนะ ตอนแรกนึกว่ามีแต่


กลุ่มเราที่ แอบเล่นไสยศาสตร์ แต่อ้าวกลุ่มอื่นก็มีอ่ะ งานนี้คงหาคนชนะไม่ได้ให้เสมอกันเถอะ ..........






ตื่นกันแต่เช้า....มาดูพระอาทิตย์ขึ้น อาบน้ำแปรงฟันกันละยังน่ะ


รุ่มถ่ายกันใหญ่เชียว ก็พระอาทิตย์ดวงเดียวกันกับที่ไปถ่ายที่สุโขทัยกับ อ.ถาวร งั้ยจำได้ป่าว หน้าตาเหมือนกันเปี๊ยบ